ความแตกต่างระหว่างแม่สีขาว Calcium กับ Titanium

รูปภาพแม่สีขาว Calcium และ Titanium วางคู่กัน

เมื่อพูดถึง “แม่สีขาว” ในงานพลาสติก หมึกพิมพ์ สีทาอุตสาหกรรม หรือเคลือบผิว วัตถุดิบที่เจอบ่อยมีอยู่สองกลุ่มใหญ่ ๆ คือ Calcium Carbonate (CaCO₃) และ Titanium Dioxide (TiO₂) หลายคนมองว่าทั้งคู่ให้ผลเป็นสีขาวเหมือนกัน แต่ในเชิงเทคนิคและการใช้งานจริง ความต่างค่อนข้างชัด ทั้งด้านความขาว ความทึบแสง ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม รวมถึงต้นทุนต่อกิโลกรัมและต้นทุนต่อชิ้นงาน

Calcium (CaCO₃)

ภาพรวม
Calcium เป็นผงแร่สีขาวที่นิยมใช้เป็นสารเติมแต่ง (filler) ในเม็ดสีและคอมพาวด์ ใช้ง่าย ราคาประหยัด เหมาะกับงานที่ไม่ต้องการ “ขาวจัด” หรือความทึบสูงมาก

ข้อดี

  • ช่วยลดต้นทุนได้มาก เหมาะกับงานปริมาณสูง

  • ปรับความหนืดและช่วยการขึ้นรูปให้เสถียรในหลายสูตร

  • ให้สัมผัสผิวที่ “แน่น” และช่วยเพิ่มความแข็งในบางระบบเรซิน

ข้อเสีย

  • ความขาว ความสว่าง และความทึบแสงต่ำกว่า Titanium

  • ใส่ปริมาณสูงเกินไปอาจทำให้ชิ้นงานเปราะ แตกง่าย

  • ไม่เด่นเรื่องทนรังสี UV สีอาจซีดหรือเหลืองไวกว่าในงานกลางแจ้ง

เหมาะกับงานแบบไหน
บรรจุภัณฑ์ชั้นใน ถุงพลาสติกทั่วไป ชิ้นส่วนที่เน้นความคุ้มค่า งานที่สีขาว “พอใช้” ไม่ต้องขาวจัด และใช้งานในร่มเป็นหลัก

Titanium (TiO₂)

ภาพรวม
Titanium Dioxide เป็นเม็ดสีขาวที่ขึ้นชื่อเรื่องความทึบแสงและความสว่างสูงมาก เม็ดสีจิ๋ว ๆ ของมันมีความสามารถกระเจิงแสงดี จึง “ปิดพื้น” ได้ไว ใช้ไม่มากก็ขาวสะอาดตา

ข้อดี

  • ให้ความขาวสว่างและความทึบแสงสูงมาก พื้นผิวดูสะอาด เงางาม

  • ทนรังสี UV สีเสถียร เหมาะกับงานกลางแจ้งหรือสินค้าพรีเมียม

  • ช่วยคุณภาพการพิมพ์และการเคลือบให้สีคมชัด

ข้อเสีย

  • ราคาสูงกว่า Calcium อย่างมีนัยสำคัญ

  • ต้องใส่สารช่วยกระจาย (dispersant) และควบคุมกระบวนการให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการรวมตัวเป็นก้อน จุดด่าง หรือผิวส้ม

เหมาะกับงานแบบไหน
บรรจุภัณฑ์สินค้าพรีเมียม ฉลากและงานพิมพ์ งานที่ต้องการขาวจัด ปิดพื้นดี ทนแดด เช่น อุปกรณ์กลางแจ้ง เฟอร์นิเจอร์สนาม หรือชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ต้องรักษาหน้าตาในระยะยาว

เลือกอย่างไรให้คุ้ม

คิดแบบง่าย ๆ คือ หาก “เน้นต้นทุนและปริมาณ” และสเปกสีขาวไม่เข้มงวดมาก ให้เริ่มที่ Calcium แล้วพิจารณาปรับสัดส่วนให้สมดุล แต่ถ้า “เน้นคุณภาพภาพลักษณ์ ความทน UV และความขาวระดับสูง” Titanium จะตอบโจทย์กว่า ในหลายกรณี สูตรที่ดีอาจผสมทั้งสองเพื่อให้ได้ความคุ้มค่าและคุณภาพที่สมดุล ขึ้นกับเรซิน กระบวนการ และเงื่อนไขการใช้งานจริง


ที่โรงงานไทยฮง เราผลิตแม่สีขาวได้ทั้ง เกรด Calcium และ เกรด Titanium พร้อมช่วยออกแบบสูตรให้เหมาะกับงานของลูกค้า ไม่ว่าจะเน้น ราคา หรือ สมรรถนะการใช้งาน ทีมเทคนิคของเรายินดีแนะนำให้เลือกแม่สีที่คุ้มค่าที่สุด ตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงาม ความทนทาน และงบประมาณของคุณ

วัตถุดิบเม็ดพลาสติก PIR และ PCR คืออะไร และต่างกันอย่างไร?

รูปวัตถุดิบเม็ดพลาสติก PIR และ PCR เปรียบเทียบกัน

ในยุคที่โลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน วัตถุดิบเม็ดพลาสติกประเภท PIR และ PCR จึงกลายมาเป็นทางเลือกสำคัญของอุตสาหกรรมพลาสติก ทั้งสองแบบนี้อยู่ในกลุ่ม เม็ดพลาสติกรีไซเคิล (Recycled Resin) แต่มีความแตกต่างกันชัดเจนในด้านแหล่งที่มาและกระบวนการจัดการก่อนนำกลับมาใช้ใหม่


ความหมายของ PIR (Post-Industrial Recycled Plastic)

PIR ย่อมาจาก Post-Industrial Recycled Plastic หรือเม็ดพลาสติกรีไซเคิลจากอุตสาหกรรม ซึ่งได้จากเศษพลาสติกที่เหลือจากกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เช่น ขอบวัสดุที่ตัดทิ้ง หรืองานที่ผลิตเสีย ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพ แม้จะยังไม่เคยใช้งานจริง แต่ก็ถูกแยกออกจากไลน์การผลิตก่อนที่จะถึงมือผู้บริโภค

ข้อดีของ PIR:

  • คุณภาพใกล้เคียงกับเม็ดใหม่ (Virgin Grade)

  • สะอาด ควบคุมที่มาได้ง่าย

  • มีความสม่ำเสมอสูง เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการคุณภาพใกล้เคียงของใหม่


ความหมายของ PCR (Post-Consumer Recycled Plastic)

PCR ย่อมาจาก Post-Consumer Recycled Plastic หรือเม็ดพลาสติกรีไซเคิลหลังการใช้งานของผู้บริโภค โดยได้จากการเก็บรวบรวมบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้ว เช่น ขวดน้ำ ขวดแชมพู หรือภาชนะต่าง ๆ ที่ถูกทิ้งและผ่านกระบวนการคัดแยก ล้าง บด และหลอมใหม่อีกครั้ง

ข้อดีของ PCR:

  • ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม

  • เหมาะกับแบรนด์ที่มุ่งเน้นด้านความยั่งยืน (Sustainability)

  • สนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)


แล้วควรเลือกใช้แบบไหน?

การเลือกใช้ PIR หรือ PCR ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน ความต้องการด้านคุณภาพ และเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร:

  • ถ้าคุณต้องการคุณภาพใกล้เคียงกับเม็ดใหม่ เช่น สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนหรือมีมาตรฐานสูง PIR คือตัวเลือกที่เหมาะสม

  • แต่ถ้าคุณต้องการเน้นภาพลักษณ์แบรนด์ที่ใส่ใจโลก ลดขยะจริงจากผู้บริโภค PCR คือคำตอบที่ใช่


โรงงานไทยฮง รองรับการผลิตทั้ง PIR และ PCR

โรงงาน ไทยฮง มีความเชี่ยวชาญในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลทั้งประเภท PIR และ PCR ภายใต้กระบวนการที่ได้มาตรฐาน และใส่ใจในคุณภาพทุกขั้นตอน ลูกค้าสามารถเลือกเกรดเม็ดพลาสติกที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างมั่นใจ

เราเข้าใจดีว่าความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรมแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเน้นคุณภาพหรือเน้นความยั่งยืน โรงงานไทยฮงพร้อมเป็นพันธมิตรด้านวัตถุดิบที่คุณไว้ใจได้


🌱 เปลี่ยนขยะให้มีคุณค่า เลือกใช้ถุงพลาสติกรีไซเคิลกับโรงงานไทยฮง วันนี้

ปัญหาขยะพลาสติกของโลก

ภาพโลกที่ล้อมรอบด้วยขยะพลาสติก โลกใบเล็กที่ถูกห่อหุ้มด้วยขวดน้ำพลาสติก ถุงพลาสติก และไมโครพลาสติกลอยอยู่รอบๆ

ปัญหาขยะพลาสติกของโลก: ความท้าทายที่เราต้องร่วมกันแก้ไข

ในทุกวันนี้ ขยะพลาสติกได้กลายเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ระบุว่าในแต่ละปี มีขยะพลาสติกราว 400 ล้านตัน ถูกผลิตขึ้นทั่วโลก และในจำนวนนี้มีประมาณ 9% เท่านั้นที่ถูกนำมารีไซเคิลอย่างถูกต้อง ที่เหลืออีกกว่า 90% มักถูกกำจัดโดยวิธีการฝังกลบ เผาทำลาย หรือถูกทิ้งลงในธรรมชาติ โดยเฉพาะในมหาสมุทร ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศในวงกว้างเป็นอย่างมาก

พลาสติกที่ไม่ย่อยสลายง่ายมักแตกตัวเป็นไมโครพลาสติกและเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร ทั้งในสัตว์ทะเลและมนุษย์ สารเคมีในพลาสติกบางชนิดยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยมีความเกี่ยวข้องกับปัญหาทางเดินอาหาร ภาวะฮอร์โมนแปรปรวน และโรคร้ายแรง

การรีไซเคิล: ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพกระบวนการแปรรูปขยะพลาสติกให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะในหลุมฝังกลบ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยทั่วไปกระบวนการรีไซเคิลพลาสติกจะประกอบด้วยหลายขั้นตอน เช่น การคัดแยก การบด การล้าง การหลอม และการขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
การจัดการขยะพลาสติกคือการรีไซเคิล เพื่อนำวัสดุที่เหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ ลดการพึ่งพาวัตถุดิบจากธรรมชาติ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไทยฮงพลาสติก : ผู้นำด้านพลาสติกรีไซเคิล 

ในประเทศไทย โรงงานไทยฮงพลาสติก เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตถุงพลาสติกที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้วัตถุดิบรีไซเคิลคุณภาพสูงในการผลิตถุงพลาสติกที่แข็งแรง ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่าง ๆ

เราขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันลดปัญหาขยะพลาสติก โดยหันมาใช้ ถุงพลาสติกรีไซเคิลแทนการใช้ถุงเกรด A(เม็ดพลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบใหม่ 100%) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและมีคุณภาพ พร้อมทั้งสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ และช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงอย่างแท้จริง

🌱 เพราะทุกการเลือกของคุณ สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้ได้

ที่ไทยฮงจะใช้สีพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงอยู่เสมอ

รูปงานพิมพ์ลายของไทยฮง

ไทยฮง ใส่ใจคุณภาพสีพิมพ์ เพื่อมาตรฐานสูงสุดของบรรจุภัณฑ์

เมื่อพูดถึงโรงงานผลิตถุงพิมพ์ลายหรือถุงสกรีนโลโก้ คุณภาพของ “สีพิมพ์” ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ และความปลอดภัยของผู้บริโภค บริษัท ไทยฮง ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างไม่ลดละ โดยมุ่งมั่นเลือกใช้เฉพาะสีพิมพ์ที่มีคุณภาพสูง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ลูกค้าได้รับนั้น สะท้อนทั้งความสวยงามและปลอดภัยต่อการใช้งาน

ไทยฮงเลือกใช้สีพิมพ์ที่มีคุณสมบัติ “ทนร้อน ทนมัน และแช่เย็นได้ที่อุณหภูมิต่ำสุดถึง -18 องศาเซลเซียส” ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารหรือสินค้าแช่แข็ง ที่ต้องผ่านกระบวนการเก็บรักษาในสภาวะอุณหภูมิที่หลากหลาย นอกจากนี้ สีที่ใช้ยังปราศจากสารอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท หรือสารโลหะหนักอื่น ๆ โดยได้รับการทดสอบและรับรองผลจากมาตรฐาน ROHS (Restriction of Hazardous Substances)ROHS Testing Result ว่าสามารถใช้งานกับบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารได้อย่างปลอดภัย

มาตรฐานเหล่านี้ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ผ่านเกณฑ์รับรองเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของไทยฮงที่ต้องการเป็นผู้นำด้านคุณภาพในวงการบรรจุภัณฑ์พิมพ์ลาย เพราะเราเชื่อว่า สีพิมพ์ที่ดี ไม่ได้แค่สวย แต่ต้องปลอดภัยต่อผู้บริโภค และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ทดสอบการทนต่อการทิ่มทะลุของถุงพลาสติก

ในการใช้งานบรรจุภัณฑ์ประเภทถุงพลาสติกที่เป็นถุงขุ่น(HDPE) หรือถุงเย็น(LDPE) ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวันของเราหรือในงานอุตสาหกรรมจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการบรรจุสิ่งของหรือสินค้าที่มีลักษณะมุมและขอบที่แหลมและคม ที่มุมที่เหลี่ยมและขอบที่แหลมของสิ่งของเหล่านี้อาจจะสามารถทิ่มทะลุถุงพลาสติกที่กำลังห่อหุ้มอยู่ได้ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจจะทำให้ถุงพลาสติกเกิดจากฉีกขาดจนทำให้สินค้าเสียหายหรือสูญหายได้

ดังนั้นที่โรงงานผลิตถุงพลาสติกขนาดใหญ่ บริษัท ไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี จำกัด จึงได้ทำการออกแบบการทดสอบการทิ่มทะลุของถุงพลาสติกเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานจริงของลูกค้า

ถุงพลาสติกเนื้อ HDPE บรรจุด้วยหินหนัก15 กิโลกรัม สำหรับทดสอบการรับน้ำหนัก,ความแข็งแรงและการทิ่มทะลุของฟิล์ม

วิธีการทดสอบการทิ่มทะลุของถุงพลาสติก

การทดสอบความทนต่อการทิ่มทะลุสำหรับการการบรรจุสินค้าเพื่อความมั่นใจในคุณภาพความเหนียวที่ใช้งานได้จริงด้วยการบรรจุหินลงในถุงพลาสติก โดยลูกค้าสามารถแจ้งน้ำหนักที่ต้องการทดสอบกับทางโรงงานผลิตถุงพลาสติก ไทยฮง ตามการใช้งานจริงของลูกค้าเพื่อทำการควบคุมคุณภาพ โดยไทยฮงเลือกใช้หินกรวดเบอร์ 2 ซึ่งมีมุมเหลี่ยมที่มีความแหลมและมุมขอบที่มีความคมในการทดสอบ

ในรูปเป็นการทดสอบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ HDPE ความหนา 30 ไมครอน บรรจุหินกรวดเบอร์ 2 น้ำหนัก 15 กิโลกรัม

พนักงานทำการยกตัวถุงที่บรรจุหินกรวดเป็นเวลา 2-3 นาที เพื่อตรวจสอบการรับน้ำหนักและการทนต่อการทิ่มทะลุของถุงพลาสติก

ทดสอบการรับน้ำหนักและการทิ่มทะลุ

หลังจากเตรียมการทดสอบโดยการบรรจุหินกรวดเบอร์ 2 น้ำหนัก 15 กิโลกรัมแล้ว ทางผู้ทดสอบ จะทำการยกถุงพลาสติก HDPE ใบนี้ขึ้นมาโดยที่ไม่มีการรองน้ำหนักที่ก้นถุงเพื่อให้ตัวฟิล์มพลาสติกต้องรับน้ำหนักด้วยตัวเองทั้งหมด 15 กิโลกรัม และทำการยกค้างไว้ 2-3 นาที เพื่อติดตามผลการทดสอบดังนี้

วิธีติดตามผลการทดสอบ

  • ถุงพลาสติกใบนี้สามารถรับน้ำหนัก 15 กิโลกรัมได้หรือไม่?
  • เนื้อฟิล์มของถุงพลาสติกสามารถทนต่อการทิ่มทะลุจากความแหลมและคมของหินกรวดได้หรือไม่?
  • เกิดการถูกทิ่มทะลุจนเป็นรูตามดบนตัวถุงพลาสติกหรือไม่หรือไม่?
  • ถ้าหากเกิดตามดแล้วตัวถุงพลาสติกยังมีความแข็งแรงและเหนียวพอที่จะไม่แตกหรือฉีกขาดหรือไม่?

อันตรายจากพลาสติก PVC

 

รูปผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจาก PVC ทั้งหมด

 

 

พลาสติก PVC หรือชื่อ โพลีไวนิลคลอไรด์ เป็นหนึ่งในวัสดุพลาสติกที่ใช้งานแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน และกันน้ำได้ดี
จึงถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น:

 

  • ท่อประปาและอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • วัสดุก่อสร้าง
  • ของเล่นเด็ก
  • อุปกรณ์ทางการแพทย์
  • ฟิล์มพลาสติก ห่ออาหาร หรือฉลากสินค้า

อย่างไรก็ตาม แม้ PVC จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็แฝงด้วยอันตรายหากถูกกำจัดอย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อนำไปเผาในอุณหภูมิไม่เหมาะสมหรือในที่ที่ไม่มีระบบจัดการสารพิษที่ดี อาจก่อให้เกิดการปล่อยสาร ไดออกซิน ซึ่งเป็นสารพิษตกค้างที่สามารถสะสมในร่างกายมนุษย์ ซึ่งอันตรายมากและมีรายงานว่าเป็น สารก่อมะเร็งที่รุนแรง รวมถึงส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบประสาทในระยะยาว

การแยกขยะและกำจัดพลาสติกประเภท PVC อย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ทุกคน

พลาสติกรีไซเคิลของไทยฮง ปลอดภัย ไร้การปนเปื้อน PVC

ไทยฮง ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ทางไทยฮงได้มีการตรวจสอบโดยห้องปฏิบัติการระดับสากลโดยจาก ผลการทดสอบจากห้องแล็บ SGS PVC 2021-05-19 HL_202105_REPORT_NO_4926980 ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบคุณภาพระดับโลก ยืนยันว่า พลาสติกรีไซเคิลของไทยฮงไม่มีการปนเปื้อน PVC ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีความปลอดภัยต่อทั้งผู้บริโภค ผู้ผลิต และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

การทดสอบก้นถุงพลาสติกด้วยการใส่น้ำ

รูปถุงแขวนน้ำ ทดสอบรอยซีลถุง และมิเตอร์น้ำ

มั่นใจในคุณภาพทุกใบ – ถุงพลาสติกจากไทยฮง ผ่านการสุ่มทดสอบอย่างเข้มงวด

ที่ โรงงานไทยฮง พลาสติก เราให้ความสำคัญกับคุณภาพของถุงพลาสติก โดยเฉพาะ “รอยซีลที่ก้นถุง” ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่อาจเกิดการรั่วซึมได้หากผลิตไม่ดี หรือซีลก้นไม่แน่น ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โรงงานของเราจึงมีขั้นตอนการ ตรวจสอบคุณภาพด้วยการใส่น้ำลงในถุงพลาสติก และแขวนพักไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลและสามารถตรวจพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ

ซึ่งทางไทยฮงได้มีการ ควบคุมปริมาณน้ำด้วยมิเตอร์ เพื่อให้แน่ใจว่าการทดสอบในแต่ละครั้งมีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด และเพื่อความแม่นยำและสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ เราบันทึกเวลาเริ่มทดสอบไว้อย่างชัดเจนในทุกครั้ง

นอกจากนี้ ทีมควบคุมคุณภาพของเรายังมีการ ติดตามผลการทดสอบ อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินผลและพัฒนาให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพสูงสุด

เพราะทุกถุงของคุณ ต้องมั่นใจได้ทุกครั้งที่ใช้งาน — เราทดสอบให้คุณก่อนเสมอ!

พลาสติกเบอร์ 4 (LDPE) คืออะไร

รูปบอร์ดแสดงประเภทพลาสติกวางอยู่ในโรงงาน

เมื่อพูดถึงพลาสติกที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน หนึ่งในประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ พลาสติกเบอร์ 4 หรือ LDPE(Low-Density Polyethylene) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติโดดเด่น ทั้งในด้านความยืดหยุ่น ความทนทาน และความปลอดภัยต่อการใช้งานหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

LDPE คืออะไร?
LDPE(Low-Density Polyethylene) เป็นพลาสติกประเภทโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ ซึ่งมีลักษณะนิ่ม ยืดหยุ่นดี และมีน้ำหนักเบา พลาสติกชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในประเภท “เบอร์ 4” ตามระบบรหัสรีไซเคิลของพลาสติก

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของ LDPE จึงเหมาะสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความบาง ยืดหยุ่น และทนความชื้น เช่น ฟิล์มห่ออาหาร ถุงหูหิ้ว ถุงแช่แข็ง

คุณสมบัติของ LDPE
✅ ยืดหยุ่นสูง – ไม่ฉีกขาดง่าย รองรับแรงดึงและแรงกดได้ดี

✅ ทนความชื้น – ไม่ดูดซับน้ำ เหมาะกับบรรจุภัณฑ์หรือการใช้งานกลางแจ้ง

✅ ทนต่อสารเคมีบางชนิด – เช่น กรด-ด่างอ่อน

✅ น้ำหนักเบา – ง่ายต่อการขนส่งและขึ้นรูป

✅ ปลอดภัยต่ออาหาร (เกรด A) – นิยมใช้ในถุงบรรจุอาหารหรือฟิล์มห่อ

✅ สามารถรีไซเคิลได้ (รหัสรีไซเคิลเลข 04) – เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าพลาสติกบางชนิด

ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
LDPE นิยมใช้ผลิตสินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น:

  • ถุงพลาสติกหูหิ้ว
  • ฟิล์มยืดห่ออาหาร
  • ถุงใส่อาหารแช่เย็น
  • ถุงซิปล็อก
  • ถุงใส่ของใช้

สิ่งแวดล้อมและการรีไซเคิลพลาสติก
พลาสติกเบอร์ 4 สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ แต่ควรแยกประเภทขยะอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบจัดการขยะในพื้นที่ด้วย การเลือกใช้ LDPE ที่สามารถรีไซเคิลได้จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในเชิงสิ่งแวดล้อม

สรุป
พลาสติกเบอร์ 4 หรือ LDPE เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้งานง่าย และเหมาะกับหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ อาหาร ไปจนถึงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาวัสดุ LDPE คุณภาพดีสำหรับการผลิตหรือใช้งานในธุรกิจของคุณ ไทยฮง พร้อมให้คำปรึกษาและจัดจำหน่ายพลาสติก LDPE หลากหลายเกรดในราคายุติธรรม

ถุงรองกล่องโฟมสำหรับปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

การปลูกผักจะง่ายขึ้น หากใช้ถุงรองกล่องโฟม

หัวใจหลักของการใช้ถุงรองกล่องโฟมสำหรับปลูกผักไฮโดรโปนิกส์นั้น เพื่อให้การดูแลเปลี่ยนน้ำทำความสะอาดได้ง่าย
และยืดอายุการใช้งานของกล่องโฟม ไม่ให้เกิดเชื้อรา ทั้งนี้ ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะมักเรียกถุงเหล่านี้ว่าถุงกล่องกุ้ง หรือถุงกล่องปลา
ซึ่งเป็นขนาดของกล่องโฟมที่ทางผู้ใช้งานเลือกใช้ในการปลูกแปลงผักนั่นเอง…

ถุงรองกล่องโฟมสีดำสำหรับปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

ข้อแนะนำการใช้ถุงรองกล่องโฟมสำหรับปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

  • ควรเลือกเป็นพลาสติกเกรดอาหาร  เพราะจะกันน้ำ ไม่รั่วซึม ทนต่อการใช้งานกลางแจ้ง
  • ควรเลือกใช้ถุงที่ขนาดพอดีกับกล่องโฟม ลดการเคลื่อนตัวของพลาติก (สามารถคำนวณขนาดถุงรองในกล่อง)

เลือกถุงรองกล่องแบบไหนดี? สีดำหรือสีฟ้า

ถุงสีดำ จะเหมาะกับการใช้งานทั่วไป เพราะช่วยกันแสงได้ดี ลดการเกิดสาหร่ายในน้ำ และช่วยให้ยืดอายุของกล่องโฟม ให้ใช้งานได้นาน แต่ข้อเสียคือจะดูมืด ไม่ค่อยสะอาดตาสักเท่าไหร่

 ถุงสีฟ้า เหมาะกับฟาร์มที่ต้องการให้ภาพลักษณ์ดูสะอาด เช่น ฟาร์มออแกนิกหรือโรงเรือนที่เปิดให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ เพราะถุงสีฟ้า ดูสว่าง สะอาด สามารถเห็นคราบสิ่งสกปรกได้ง่าย แต่ข้อเสียอาจจะกันแสงได้ไม่สนิท อาจต้องหาวิธีลดแสงร่วมด้วย เช่น สั่งผลิตถุงที่เพิ่มแม่สีให้สีทึบยิ่งขึ้น

ถุงรองกล่องโฟมสีดำสำหรับปลูกแปลงผัก

หากสนใจสั่งผลิตถุงรองกล่องโฟมสามารถติดต่อเราได้ที่ @thaihong หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินราคาถุงรองกล่องได้ค่ะ

วิธีผลิตถุงพลาสติกแบบมีสี

การเป่าม้วนพลาสติกแบบผสมแม่สี

การผลิตถุงพลาสติกแบบถุงสีทั้งใบ

ในอุตสาหกรรมพลาสติก ถุงพลาสติกแบบถุงสีใบได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพื่อเพียงแค่ความสวยงาม แต่ยังตอบโจทย์ด้านการใช้งาน เช่น ปิดบังสินค้า  การแยกประเภทของสินค้า หรือเพิ่มความดึงดูดใจให้กับตัวสินค้า

แม่สีเม็ดพลาสติกส่วนประกอบหลักในการถุงสีทำใบ

ขั้นตอนการผลิตถุงพลาสติกแบบถุงสีทั้งใบ

  1. การเลือกเม็ดพลาสติก
    โดยปกติการผลิตถุงจะเริ่มต้นจากเม็ดพลาสติกประเภท HDPE หรือ LDPE ซึ่งในกรณีถุงสี จะมีการเติมเม็ดสีหรือที่เรียกว่า Color Masterbatch ลงไปผสมกับเม็ดพลาสติกใสในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้สีนั้นออกมาสม่ำเสมอทั่วทั้งเนื้อพลาสติก
  2. กระบวนการเป่าม้วนพลาสติก
    เมือเม็ดพลาสติกที่ผสมเข้ากันดีเรียบร้อยแล้วจะนำไปเทเข้าสู่เครื่องเป่าม้วนพลาสติก เมื่อความร้อนทำให้เม็ดพลาสติกละลาย เครื่องจะเป่าพลาสติกเป็นลูกโป่งออกมาเป็นหลอดพลาสติก ซึ่งในระหว่างนี้จะควบคุมการแต่ง หน้ากว้างของพลาสติก และความหนาของพลาสติก ให้เหมาะสมกับการใช้งานตามความต้องการของลูกค้า
  3. การตัดถุงและซีลก้นถุง
    หลังจากได้ม้วนพลาสติกสีมาแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการตัดให้ได้ความยาวที่ต้องการ และทำการซีลก้นถุงตามรูปแบบ เช่น ถุงหูหิ้ว ถุงหูเจาะ เป็นต้น
  4. การควบคุมคุณภาพ
    ก่อนจัดส่งสินค้า ทางเราจะมีการตรวจสอบในเรื่อง ขนาด สี ความหนา และการซีลก้นถุง ว่าตรงตามมาตรฐานหรือไม่ งานถุงสีที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น สีไม่สม่ำเสมอ ขนาดไม่ได้มาตรฐาน จะถูกคัดแยกออกจากสายการผลิต

ถุงสีทั้งใบที่ใช้เม็ดสีลาสติกเป็นวัตุถิบในการผลิต