การใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลช่วยลด Carbon footprint

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon footprint)

คือ  ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำของสินค้าและบริการหนึ่ง ๆ โดยคิดเป็นหน่วยกิโลกรัมของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO₂‑eq) ตั้งแต่การขุดทรัพยากร การขนส่ง การผลิต การใช้ ไปจนถึงการกำจัดของเสีย การวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพริ้นท์ช่วยให้เราทราบว่ากิจกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใดก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด สร้างพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจปฏิบัติที่ยั่งยืน

การผลิตถุงพลาสติก HDPE หรือ LDPE หนัก 1 กิโลกรัม จะปล่อย CO₂‑eq ออกมาหลายกิโลกรัม เนื่องจากต้องอาศัยพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในการสกัดน้ำมัน ดัดแปลงเคมี พลาสติก และระบบขนส่ง หากเป็นพลาสติกเกรดใหม่ (virgin) การปล่อยคาร์บอนอาจสูงถึง 6–8 กิโลกรัม CO₂‑eq ต่อ 1 กิโลกรัมผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ ขึ้นกับความเข้มข้นของพลังงานที่ใช้

งานวิจัยจำนวนมากชี้ว่า การใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิล (recycled resin) แทนพลาสติกใหม่ สามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้สูงสุดถึงราว 87% เมื่อเทียบกับการใช้พลาสติกจากปิโตรเลียมสกัดใหม่ ลดการปล่อย CO₂‑eq ได้อย่างเห็นได้ชัด เหตุนี้การใช้วัสดุรีไซเคิลจึงเป็น “กุญแจสำคัญ” ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

ไทยฮงพลาสติก เราคือโรงงานชั้นนำด้านผลิตถุงพลาสติก HDPE และ LDPE จากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ตั้งแต่คัดแยกเม็ด การผลิตจนได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ด้วยกระบวนการควบคุมที่ทันสมัย มุ่งเน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โรงงานของเราได้พิสูจน์แล้วว่าการเลือกใช้ถุงรีไซเคิลไม่เพียงช่วยลดต้นทุนด้านทรัพยากร แต่ยังช่วยลด Carbon footprint ได้เกือบ 9 ใน 10 เทียบกับถุงพลาสติกใหม่

หากคุณกำลังมองหาถุงพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ผลิตจากเม็ดรีไซเคิลคุณภาพ และช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เลือก ไทยฮงพลาสติก  เพื่อโลกที่ดีกว่าและอนาคตที่ยั่งยืน เริ่มต้นง่าย ๆ แค่เปลี่ยนมาใช้ถุงพลาสติกรีไซเคิลวันนี้! หลาย ๆ ธุรกิจก็ทำได้แล้ว และคุณก็เป็นหนึ่งในนั้นได้เช่นกัน

กระบวนการเกิดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ตั้งแต่การขุดทรัพยากร การขนส่ง การผลิต การใช้ ไปจนถึงการกำจัดของเสีย

ที่ไทยฮงจะใช้สีพิมพ์ที่มีคุณภาพสูงอยู่เสมอ

รูปงานพิมพ์ลายของไทยฮง

ไทยฮง ใส่ใจคุณภาพสีพิมพ์ เพื่อมาตรฐานสูงสุดของบรรจุภัณฑ์

เมื่อพูดถึงโรงงานผลิตถุงพิมพ์ลายหรือถุงสกรีนโลโก้ คุณภาพของ “สีพิมพ์” ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ และความปลอดภัยของผู้บริโภค บริษัท ไทยฮง ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างไม่ลดละ โดยมุ่งมั่นเลือกใช้เฉพาะสีพิมพ์ที่มีคุณภาพสูง ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ลูกค้าได้รับนั้น สะท้อนทั้งความสวยงามและปลอดภัยต่อการใช้งาน

ไทยฮงเลือกใช้สีพิมพ์ที่มีคุณสมบัติ “ทนร้อน ทนมัน และแช่เย็นได้ที่อุณหภูมิต่ำสุดถึง -18 องศาเซลเซียส” ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารหรือสินค้าแช่แข็ง ที่ต้องผ่านกระบวนการเก็บรักษาในสภาวะอุณหภูมิที่หลากหลาย นอกจากนี้ สีที่ใช้ยังปราศจากสารอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท หรือสารโลหะหนักอื่น ๆ โดยได้รับการทดสอบและรับรองผลจากมาตรฐาน ROHS (Restriction of Hazardous Substances)ROHS Testing Result ว่าสามารถใช้งานกับบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารได้อย่างปลอดภัย

มาตรฐานเหล่านี้ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ผ่านเกณฑ์รับรองเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของไทยฮงที่ต้องการเป็นผู้นำด้านคุณภาพในวงการบรรจุภัณฑ์พิมพ์ลาย เพราะเราเชื่อว่า สีพิมพ์ที่ดี ไม่ได้แค่สวย แต่ต้องปลอดภัยต่อผู้บริโภค และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การปั่นสีก่อนใช้งานในแผนกพิมพ์ถุง

การใช้สว่านติดใบพัดเพื่อปั่นสีพิมพ์เพื่อให้เนื้อสีผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนการปั่นสีก่อนจะเริ่มพิมพ์งานทุกครั้ง

พนักงานไทยฮงแผนกพิมพ์ต้องปั่นสีในปี๊ปให้เข้ากันก่อน โดยใช้สว่านติดใบพัดหมุนลงไปในปี๊ปสี เพื่อให้เนื้อสีผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ขั้นตอนนี้แม้จะดูเล็กน้อย แต่สำคัญมาก เพราะสีพิมพ์ที่ตั้งทิ้งไว้นาน จะเริ่มตกตะกอนและแยกชั้น ส่วนที่เป็นเม็ดสีจะจมอยู่ด้านล่าง ส่วนที่เป็นกาวเรซิ่นหรือของเหลวอื่น ๆ จะลอยอยู่ข้างบน

ถ้านำสีมาใช้งานโดยไม่ปั่นก่อน ส่วนผสมที่ตักขึ้นมาอาจไม่สมดุล สีที่ได้จะเพี้ยน หรือพิมพ์แล้วไม่ติดถุง บางครั้งอาจทำให้สีหลุดหรือลอกออกง่ายในภายหลัง ซึ่งทำให้ต้องเสียเวลาแก้งาน หรือแย่กว่านั้นคือต้องทิ้งงานทั้งล็อต

การปั่นสีควรใช้เวลาประมาณ 2–3 นาที หรือจนแน่ใจว่าสีไม่แยกชั้น สีดูเข้ากันดีแล้วจึงเทออกมาใช้ ปฏิบัติให้เหมือนกันทุกปี๊ป เพื่อให้สีที่ใช้พิมพ์มีคุณภาพสม่ำเสมอในทุกชิ้นงาน ไม่ว่าจะพิมพ์ถุงแบบใดก็ตาม “การทำตามขั้นตอนนี้ทุกครั้ง ไม่ใช่แค่รักษาคุณภาพของงานพิมพ์ แต่ยังสะท้อนความใส่ใจของทีมงานไทยฮงในทุกขั้นตอน”

หากสนใจสั่งผลิตถุงพิมพ์ลายหรือถุงสกรีนโลโก้สามารถติดต่อเราได้ที่ @thaihong หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินราคาก่อนได้ค่ะ

ทดสอบการทนต่อการทิ่มทะลุของถุงพลาสติก

ในการใช้งานบรรจุภัณฑ์ประเภทถุงพลาสติกที่เป็นถุงขุ่น(HDPE) หรือถุงเย็น(LDPE) ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวันของเราหรือในงานอุตสาหกรรมจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการบรรจุสิ่งของหรือสินค้าที่มีลักษณะมุมและขอบที่แหลมและคม ที่มุมที่เหลี่ยมและขอบที่แหลมของสิ่งของเหล่านี้อาจจะสามารถทิ่มทะลุถุงพลาสติกที่กำลังห่อหุ้มอยู่ได้ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจจะทำให้ถุงพลาสติกเกิดจากฉีกขาดจนทำให้สินค้าเสียหายหรือสูญหายได้

ดังนั้นที่โรงงานผลิตถุงพลาสติกขนาดใหญ่ บริษัท ไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี จำกัด จึงได้ทำการออกแบบการทดสอบการทิ่มทะลุของถุงพลาสติกเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานจริงของลูกค้า

ถุงพลาสติกเนื้อ HDPE บรรจุด้วยหินหนัก15 กิโลกรัม สำหรับทดสอบการรับน้ำหนัก,ความแข็งแรงและการทิ่มทะลุของฟิล์ม

วิธีการทดสอบการทิ่มทะลุของถุงพลาสติก

การทดสอบความทนต่อการทิ่มทะลุสำหรับการการบรรจุสินค้าเพื่อความมั่นใจในคุณภาพความเหนียวที่ใช้งานได้จริงด้วยการบรรจุหินลงในถุงพลาสติก โดยลูกค้าสามารถแจ้งน้ำหนักที่ต้องการทดสอบกับทางโรงงานผลิตถุงพลาสติก ไทยฮง ตามการใช้งานจริงของลูกค้าเพื่อทำการควบคุมคุณภาพ โดยไทยฮงเลือกใช้หินกรวดเบอร์ 2 ซึ่งมีมุมเหลี่ยมที่มีความแหลมและมุมขอบที่มีความคมในการทดสอบ

ในรูปเป็นการทดสอบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ HDPE ความหนา 30 ไมครอน บรรจุหินกรวดเบอร์ 2 น้ำหนัก 15 กิโลกรัม

พนักงานทำการยกตัวถุงที่บรรจุหินกรวดเป็นเวลา 2-3 นาที เพื่อตรวจสอบการรับน้ำหนักและการทนต่อการทิ่มทะลุของถุงพลาสติก

ทดสอบการรับน้ำหนักและการทิ่มทะลุ

หลังจากเตรียมการทดสอบโดยการบรรจุหินกรวดเบอร์ 2 น้ำหนัก 15 กิโลกรัมแล้ว ทางผู้ทดสอบ จะทำการยกถุงพลาสติก HDPE ใบนี้ขึ้นมาโดยที่ไม่มีการรองน้ำหนักที่ก้นถุงเพื่อให้ตัวฟิล์มพลาสติกต้องรับน้ำหนักด้วยตัวเองทั้งหมด 15 กิโลกรัม และทำการยกค้างไว้ 2-3 นาที เพื่อติดตามผลการทดสอบดังนี้

วิธีติดตามผลการทดสอบ

  • ถุงพลาสติกใบนี้สามารถรับน้ำหนัก 15 กิโลกรัมได้หรือไม่?
  • เนื้อฟิล์มของถุงพลาสติกสามารถทนต่อการทิ่มทะลุจากความแหลมและคมของหินกรวดได้หรือไม่?
  • เกิดการถูกทิ่มทะลุจนเป็นรูตามดบนตัวถุงพลาสติกหรือไม่หรือไม่?
  • ถ้าหากเกิดตามดแล้วตัวถุงพลาสติกยังมีความแข็งแรงและเหนียวพอที่จะไม่แตกหรือฉีกขาดหรือไม่?

สารปนเปื้อนโลหะหนักอันตราย 4 ชนิด มีอะไรบ้าง

 

ถุงพลาสติกของโรงงานไทยฮง

ไม่ว่าจะเป็นถุงเกรดใหม่หรือถุงเกรดรีไซเคิล ล้วนผ่านกระบวนการผลิตที่ใส่ใจในคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในส่วนของวัตถุดิบที่นำมาใช้ ทางโรงงานได้มีการ คัดเลือกแหล่งวัตถุดิบอย่างรอบคอบและเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานหรือสิ่งแวดล้อม

ถุงพลาสติกเกรดรีไซเคิลของไทยฮงนั้น แม้จะผลิตจากวัสดุรีไซเคิล แต่ได้ผ่านกระบวนการคัดแยกและควบคุมคุณภาพอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มั่นใจว่า ไม่มีการปนเปื้อนของโลหะหนักอันตราย 4 ชนิด ได้แก่ แคดเมียม (Cadmium), โครเมียม (Hexavalent Chromium), ตะกั่ว (Lead), และปรอท (Mercury) ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว

ด้วยมาตรฐานการผลิตที่เคร่งครัดนี้ ทำให้ถุงพลาสติกจากโรงงานไทยฮงมีความปลอดภัย เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งในด้านการบรรจุสินค้า การขนส่ง และการใช้งานทั่วไป โดยยังคงให้ความมั่นใจด้านความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ผลทดสอบ SGS เนื้อพลาสติก PE เกรดรีไซเคิล ที่ไม่สารโลหะหนัก 4 ชนิด ข้อสรุปผลทดสอบ SGS เนื้อพลาสติก PE เกรดรีไซเคิล ที่ไม่สารโลหะหนัก 4 ชนิด

หากต้องการผลทดสอบ SGS แบบความละเอียดคมชัด สามารถกดได้ที่ลิงก์นี้ PE(Recycle)28-02-65 HL_202202_REPORT_NO_5191000

 

อันตรายจากพลาสติก PVC

 

รูปผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจาก PVC ทั้งหมด

 

 

พลาสติก PVC หรือชื่อ โพลีไวนิลคลอไรด์ เป็นหนึ่งในวัสดุพลาสติกที่ใช้งานแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน และกันน้ำได้ดี
จึงถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น:

 

  • ท่อประปาและอุปกรณ์ไฟฟ้า
  • วัสดุก่อสร้าง
  • ของเล่นเด็ก
  • อุปกรณ์ทางการแพทย์
  • ฟิล์มพลาสติก ห่ออาหาร หรือฉลากสินค้า

อย่างไรก็ตาม แม้ PVC จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็แฝงด้วยอันตรายหากถูกกำจัดอย่างไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อนำไปเผาในอุณหภูมิไม่เหมาะสมหรือในที่ที่ไม่มีระบบจัดการสารพิษที่ดี อาจก่อให้เกิดการปล่อยสาร ไดออกซิน ซึ่งเป็นสารพิษตกค้างที่สามารถสะสมในร่างกายมนุษย์ ซึ่งอันตรายมากและมีรายงานว่าเป็น สารก่อมะเร็งที่รุนแรง รวมถึงส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบประสาทในระยะยาว

การแยกขยะและกำจัดพลาสติกประเภท PVC อย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ทุกคน

พลาสติกรีไซเคิลของไทยฮง ปลอดภัย ไร้การปนเปื้อน PVC

ไทยฮง ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ทางไทยฮงได้มีการตรวจสอบโดยห้องปฏิบัติการระดับสากลโดยจาก ผลการทดสอบจากห้องแล็บ SGS PVC 2021-05-19 HL_202105_REPORT_NO_4926980 ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบคุณภาพระดับโลก ยืนยันว่า พลาสติกรีไซเคิลของไทยฮงไม่มีการปนเปื้อน PVC ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีความปลอดภัยต่อทั้งผู้บริโภค ผู้ผลิต และสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

การทดสอบก้นถุงพลาสติกด้วยการใส่น้ำ

รูปถุงแขวนน้ำ ทดสอบรอยซีลถุง และมิเตอร์น้ำ

มั่นใจในคุณภาพทุกใบ – ถุงพลาสติกจากไทยฮง ผ่านการสุ่มทดสอบอย่างเข้มงวด

ที่ โรงงานไทยฮง พลาสติก เราให้ความสำคัญกับคุณภาพของถุงพลาสติก โดยเฉพาะ “รอยซีลที่ก้นถุง” ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่อาจเกิดการรั่วซึมได้หากผลิตไม่ดี หรือซีลก้นไม่แน่น ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โรงงานของเราจึงมีขั้นตอนการ ตรวจสอบคุณภาพด้วยการใส่น้ำลงในถุงพลาสติก และแขวนพักไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลและสามารถตรวจพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ

ซึ่งทางไทยฮงได้มีการ ควบคุมปริมาณน้ำด้วยมิเตอร์ เพื่อให้แน่ใจว่าการทดสอบในแต่ละครั้งมีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด และเพื่อความแม่นยำและสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ เราบันทึกเวลาเริ่มทดสอบไว้อย่างชัดเจนในทุกครั้ง

นอกจากนี้ ทีมควบคุมคุณภาพของเรายังมีการ ติดตามผลการทดสอบ อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินผลและพัฒนาให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพสูงสุด

เพราะทุกถุงของคุณ ต้องมั่นใจได้ทุกครั้งที่ใช้งาน — เราทดสอบให้คุณก่อนเสมอ!

วิธีปิดปากถุงพลาสติกหลังใส่สินค้า

วิธีปิดปากถุงพลาสติก-แนะนำโดยโรงงานไทยฮง

หลายคนอาจเคยสงสัยว่า ถุงพลาสติกที่เราใช้ใส่ของควรปิดปากถุงยังไงให้แน่นหนา ไม่หลุดง่าย ที่จริงแล้ววิธีปิดปากถุงมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการใช้งาน ดังนี้

  1. ปิดปากถุงด้วยเทปกาว
    ข้อดี    ใช้งานง่าย รวดเร็ว เหมาะกับการปิดถุงชั่วคราว
    ข้อควรระวัง   อาจมีช่องว่าง ทำให้ฝุ่นหรือแมลงเล็ดลอดเข้าไปได้ จึงไม่เหมาะกับสินค้าที่มีความต้องการมิดชิด
  2.  ม้วนแล้วมัด
    ข้อดี     เหมาะกับถุงที่มีขนาดใหญ่ หรือบรรจุสินค้าที่มีปริมาณมาก เช่น การใส่ขยะจากงานอุตสาหกรรมการผลิต
    ข้อควรระวัง  ปลายถุงที่มัดอาจเกะกะ ดูไม่เรียบร้อย ใช้พื้นที่จัดเก็บเยอะขึ้น
  3. ซีลด้วยความร้อน
    ข้อดี     ปิดสนิท ป้องกันฝุ่น อากาศ ความชื้น และแมลง เหมาะสำหรับของที่เก็บนาน เช่น อาหารแช่แข็ง สมุนไพร หรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
    ข้อควรระวัง   การใช้เครื่องซีลที่มีความร้อน อาจต้องดูอุณหภูมิที่เหมาะสมกับความหนาของถุงพลาสติกว่าเพียงพอหรือไม่ หากใช้อุณหภูมิที่สูงเกินไปรอยซีลถุงอาจเกิดละลาย เป็นตามดได้
    สรุปคำแนะนำ  ถ้าต้องการความเรียบร้อยและปลอดภัย การซีลด้วยความร้อน คือทางเลือกที่แนะนำที่สุด โดยเฉพาะกับของกิน หรือของที่ต้องเก็บไว้นาน

การปิดปากถุงด้วยเทปกาวแบบเปิดปิดบ่อย ใช้งานได้รวดเร็ว การม้วนพลาสติกด้วยการมัดปากถุง

ระบบลมภายในโรงงานผลิตถุงพลาสติก

ในกระบวนการผลิตถุงพลาสติกแบบ Blown Film Extrusion ของโรงงานถุงพลาสติก ไทยฮง จำเป็นต้องมีแรงดันลมในการผลิตในทุกๆขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการใส่แรงดันอากาศเพื่อให้ลูกโป่งพลาสติกขยายตัวจนได้ขนาดที่ต้องการ การใช้จานลมเป่าพลาสติกให้เย็นตัว หรือแม้แต่ในขั้นตอนตัดถุงพลาสติกที่มีการเจาะรูและเจาะหูหิ้วรูปแบบต่างๆ และยังรวมไปถึงอุปกรณ์กระบอกลม (Air Cylinder) ทุกตัวในโรงงานผลิตถุงพลาสติก

ดังนั้น บริษัท ไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี จำกัด จึงได้ให้ทีมวิศวกรจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านระบบแรงดันลมในระดับอุตสาหกรรม ทำการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพหน้างานจริง

ระบบ Auto Drain น้ำและความชื้นในระบบแรงดันลมจำนวน 4 ชุดของโรงงานผลิตถุงพลาสติก

ระบบ Auto Drain จำนวน 4 ชุด

ระบบลมของบริษัท ไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี จำกัด มีการติดตั้งระบบ Auto Drain จำนวน 4 ชุดตามจุดต่างๆที่ออกแบบโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านระบบลมในงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้ถังแรงดันขนาด 1000 ลิตร และตามไส้กรองอากาศทั้ง 3 ตัว เพื่อลดการเกิดสนิมในระบบท่อลมทั้งหมดและลดภาระให้เครื่องทำลมแห้ง

โรงงานถุงพลาสติกไทยฮง มีการติดตั้งไส้กรองในระบบแรงดันลม โดยไส้กรองตัวนี้เป็นการกรองฝุ่นละอองที่มีขนาดใหญ่กว่า 3 ไมครอน

ระบบกรองอากาศระดับ 3 ไมครอน

แรงดันลมที่จะถูกจ่ายเข้าไปในสายการผลิตของโรงงานผลิตถุงพลาสติก จะถูกกรองด้วยไส้กรองขั้นแรกที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นละอองและสิ่งเจือปนที่มีขนาดใหญ่กว่า 3 ไมครอน ก่อนที่จะต่อเข้ากับเครื่องทำลมแห้ง(Air Dryer)

หลังจากผ่านการกรองแบบหยาบจะเข้าสู่กระบวนการกรองแบบละเอียดที่ขนาด 1 ไมครอนและ 0.1 ไมครอนตามลำดับ ก่อนที่จะส่งเข้าสู่การผลิตถุงพลาสติก

ระบบกรองอากาศระดับ 1 ไมครอนและ 0.1 ไมครอน

หลังจากที่อากาศได้ผ่านเครื่องทำลมแห้งเพื่อแยกความชื้นภายในอากาศออกแล้ว ก่อนที่จะถูกส่งเข้าไปในระบบท่อลมหลักของโรงงานถุงพลาสติก จะมีการผ่านไส้กรองแบบละเอียดที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่กว่า 1 ไมครอนและตามด้วยไส้กรองระดับ 0.1 ไมครอน เพื่อให้ได้แรงดันลมที่มีคุณสมบัติดังนี้

  • เป็นลมที่ปราศจากละอองน้ำมัน(Oil free air)
  • แรงดันลมที่สะอาด ไม่มีฝุ่นละอองขนาดใหญ่กว่า 0.1 ไมครอน
  • ความชื้นภายในแรงดันลมต่ำ

จากคุณสมบัติของอากาศข้างต้นที่ใช้ในโรงงานไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี ทำให้สามารถผลิตถุงพลาสติกได้อย่างมีคุณภาพ สะอาด สามารถใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุอาหารและยาได้ และนอกจากนี้ยังเป็นการถนอมและยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆในโรงงาน เพื่อให้ทางบริษัทมีต้นทุนในการซ่อมบำรุงที่ต่ำ สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันในตลาดได้

พลาสติกเบอร์ 4 (LDPE) คืออะไร

รูปบอร์ดแสดงประเภทพลาสติกวางอยู่ในโรงงาน

เมื่อพูดถึงพลาสติกที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน หนึ่งในประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ พลาสติกเบอร์ 4 หรือ LDPE(Low-Density Polyethylene) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติโดดเด่น ทั้งในด้านความยืดหยุ่น ความทนทาน และความปลอดภัยต่อการใช้งานหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์

LDPE คืออะไร?
LDPE(Low-Density Polyethylene) เป็นพลาสติกประเภทโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ ซึ่งมีลักษณะนิ่ม ยืดหยุ่นดี และมีน้ำหนักเบา พลาสติกชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในประเภท “เบอร์ 4” ตามระบบรหัสรีไซเคิลของพลาสติก

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของ LDPE จึงเหมาะสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความบาง ยืดหยุ่น และทนความชื้น เช่น ฟิล์มห่ออาหาร ถุงหูหิ้ว ถุงแช่แข็ง

คุณสมบัติของ LDPE
✅ ยืดหยุ่นสูง – ไม่ฉีกขาดง่าย รองรับแรงดึงและแรงกดได้ดี

✅ ทนความชื้น – ไม่ดูดซับน้ำ เหมาะกับบรรจุภัณฑ์หรือการใช้งานกลางแจ้ง

✅ ทนต่อสารเคมีบางชนิด – เช่น กรด-ด่างอ่อน

✅ น้ำหนักเบา – ง่ายต่อการขนส่งและขึ้นรูป

✅ ปลอดภัยต่ออาหาร (เกรด A) – นิยมใช้ในถุงบรรจุอาหารหรือฟิล์มห่อ

✅ สามารถรีไซเคิลได้ (รหัสรีไซเคิลเลข 04) – เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าพลาสติกบางชนิด

ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
LDPE นิยมใช้ผลิตสินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น:

  • ถุงพลาสติกหูหิ้ว
  • ฟิล์มยืดห่ออาหาร
  • ถุงใส่อาหารแช่เย็น
  • ถุงซิปล็อก
  • ถุงใส่ของใช้

สิ่งแวดล้อมและการรีไซเคิลพลาสติก
พลาสติกเบอร์ 4 สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ แต่ควรแยกประเภทขยะอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบจัดการขยะในพื้นที่ด้วย การเลือกใช้ LDPE ที่สามารถรีไซเคิลได้จึงถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในเชิงสิ่งแวดล้อม

สรุป
พลาสติกเบอร์ 4 หรือ LDPE เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ใช้งานง่าย และเหมาะกับหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ อาหาร ไปจนถึงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาวัสดุ LDPE คุณภาพดีสำหรับการผลิตหรือใช้งานในธุรกิจของคุณ ไทยฮง พร้อมให้คำปรึกษาและจัดจำหน่ายพลาสติก LDPE หลากหลายเกรดในราคายุติธรรม