การใช้กล้องอินฟาเรดในการพัฒนาเครื่องจักรให้ประหยัดพลังงาน

การวัดค่าความร้อนด้วยกล้องตรวจจับอินฟาเรดก่อนหุ้มฉนวนกันความร้อน

กล้องอินฟาเรดกับบทบาทสำคัญในโรงงานผลิตถุงพลาสติก

กล้องอินฟาเรด หรือกล้องถ่ายภาพความร้อน คืออุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังงานความร้อนจากวัตถุต่าง ๆ แล้วแปลงเป็นภาพให้มนุษย์มองเห็นได้ เหมาะสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องควบคุมอุณหภูมิและความปลอดภัยในกระบวนการผลิต

ในโรงงานผลิตถุงพลาสติกไทยฮง กล้องอินฟาเรดมีบทบาทสำคัญหลายด้าน ซึ่งแผนกวิจัยและพัฒนาของโรงงานผลิตถุงพลาสติกไทยฮงจะใช้ตรวจสอบอุณหภูมิของเครื่องเป่าฟิล์มพลาสติก (Blown Film) ซึ่งต้องใช้ความร้อนอย่างสม่ำเสมอ หากพบจุดร้อนหรือเย็นผิดปกติอาจส่งผลต่อความหนาและคุณภาพของถุงพลาสติกโดยตรง นอกจากนี้ยังช่วยตรวจสอบฮีตเตอร์ มอเตอร์ แบริ่ง และสายไฟ เพื่อป้องกันความเสียหายล่วงหน้า ลดการหยุดไลน์ผลิตโดยไม่จำเป็น

อีกหนึ่งแนวทางเสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในโรงงาน

คือการหุ้มฉนวนในจุดที่มีการสูญเสียความร้อน เช่น ท่อส่งลมร้อน หรือถังฮีตเตอร์ ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานความร้อนและสามารถประหยัดค่าไฟได้ถึง 15–25% ต่อปี ทั้งยังช่วยลดอุณหภูมิสะสมในพื้นที่การทำงาน ทำให้โรงงานปลอดภัยและประหยัดยิ่งขึ้น

การวัดค่าความร้อนด้วยกล้องตรวจจับอินฟาเรดหลังหุ้มฉนวนกันความร้อน

การนำกล้องอินฟาเรดและฉนวนกันความร้อนมาใช้ร่วมกัน จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า และลดต้นทุนการผลิตอย่างเห็นผลในระยะยาว

การใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลช่วยลด Carbon footprint

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon footprint)

คือ  ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำของสินค้าและบริการหนึ่ง ๆ โดยคิดเป็นหน่วยกิโลกรัมของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO₂‑eq) ตั้งแต่การขุดทรัพยากร การขนส่ง การผลิต การใช้ ไปจนถึงการกำจัดของเสีย การวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพริ้นท์ช่วยให้เราทราบว่ากิจกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใดก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด สร้างพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจปฏิบัติที่ยั่งยืน

การผลิตถุงพลาสติก HDPE หรือ LDPE หนัก 1 กิโลกรัม จะปล่อย CO₂‑eq ออกมาหลายกิโลกรัม เนื่องจากต้องอาศัยพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในการสกัดน้ำมัน ดัดแปลงเคมี พลาสติก และระบบขนส่ง หากเป็นพลาสติกเกรดใหม่ (virgin) การปล่อยคาร์บอนอาจสูงถึง 6–8 กิโลกรัม CO₂‑eq ต่อ 1 กิโลกรัมผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ ขึ้นกับความเข้มข้นของพลังงานที่ใช้

งานวิจัยจำนวนมากชี้ว่า การใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิล (recycled resin) แทนพลาสติกใหม่ สามารถลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้สูงสุดถึงราว 87% เมื่อเทียบกับการใช้พลาสติกจากปิโตรเลียมสกัดใหม่ ลดการปล่อย CO₂‑eq ได้อย่างเห็นได้ชัด เหตุนี้การใช้วัสดุรีไซเคิลจึงเป็น “กุญแจสำคัญ” ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

ไทยฮงพลาสติก เราคือโรงงานชั้นนำด้านผลิตถุงพลาสติก HDPE และ LDPE จากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ตั้งแต่คัดแยกเม็ด การผลิตจนได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ด้วยกระบวนการควบคุมที่ทันสมัย มุ่งเน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โรงงานของเราได้พิสูจน์แล้วว่าการเลือกใช้ถุงรีไซเคิลไม่เพียงช่วยลดต้นทุนด้านทรัพยากร แต่ยังช่วยลด Carbon footprint ได้เกือบ 9 ใน 10 เทียบกับถุงพลาสติกใหม่

หากคุณกำลังมองหาถุงพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ผลิตจากเม็ดรีไซเคิลคุณภาพ และช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม เลือก ไทยฮงพลาสติก  เพื่อโลกที่ดีกว่าและอนาคตที่ยั่งยืน เริ่มต้นง่าย ๆ แค่เปลี่ยนมาใช้ถุงพลาสติกรีไซเคิลวันนี้! หลาย ๆ ธุรกิจก็ทำได้แล้ว และคุณก็เป็นหนึ่งในนั้นได้เช่นกัน

กระบวนการเกิดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ตั้งแต่การขุดทรัพยากร การขนส่ง การผลิต การใช้ ไปจนถึงการกำจัดของเสีย

การปั่นสีก่อนใช้งานในแผนกพิมพ์ถุง

การใช้สว่านติดใบพัดเพื่อปั่นสีพิมพ์เพื่อให้เนื้อสีผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

ขั้นตอนการปั่นสีก่อนจะเริ่มพิมพ์งานทุกครั้ง

พนักงานไทยฮงแผนกพิมพ์ต้องปั่นสีในปี๊ปให้เข้ากันก่อน โดยใช้สว่านติดใบพัดหมุนลงไปในปี๊ปสี เพื่อให้เนื้อสีผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ขั้นตอนนี้แม้จะดูเล็กน้อย แต่สำคัญมาก เพราะสีพิมพ์ที่ตั้งทิ้งไว้นาน จะเริ่มตกตะกอนและแยกชั้น ส่วนที่เป็นเม็ดสีจะจมอยู่ด้านล่าง ส่วนที่เป็นกาวเรซิ่นหรือของเหลวอื่น ๆ จะลอยอยู่ข้างบน

ถ้านำสีมาใช้งานโดยไม่ปั่นก่อน ส่วนผสมที่ตักขึ้นมาอาจไม่สมดุล สีที่ได้จะเพี้ยน หรือพิมพ์แล้วไม่ติดถุง บางครั้งอาจทำให้สีหลุดหรือลอกออกง่ายในภายหลัง ซึ่งทำให้ต้องเสียเวลาแก้งาน หรือแย่กว่านั้นคือต้องทิ้งงานทั้งล็อต

การปั่นสีควรใช้เวลาประมาณ 2–3 นาที หรือจนแน่ใจว่าสีไม่แยกชั้น สีดูเข้ากันดีแล้วจึงเทออกมาใช้ ปฏิบัติให้เหมือนกันทุกปี๊ป เพื่อให้สีที่ใช้พิมพ์มีคุณภาพสม่ำเสมอในทุกชิ้นงาน ไม่ว่าจะพิมพ์ถุงแบบใดก็ตาม “การทำตามขั้นตอนนี้ทุกครั้ง ไม่ใช่แค่รักษาคุณภาพของงานพิมพ์ แต่ยังสะท้อนความใส่ใจของทีมงานไทยฮงในทุกขั้นตอน”

หากสนใจสั่งผลิตถุงพิมพ์ลายหรือถุงสกรีนโลโก้สามารถติดต่อเราได้ที่ @thaihong หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินราคาก่อนได้ค่ะ

สารปนเปื้อนโลหะหนักอันตราย 4 ชนิด มีอะไรบ้าง

 

ถุงพลาสติกของโรงงานไทยฮง

ไม่ว่าจะเป็นถุงเกรดใหม่หรือถุงเกรดรีไซเคิล ล้วนผ่านกระบวนการผลิตที่ใส่ใจในคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะในส่วนของวัตถุดิบที่นำมาใช้ ทางโรงงานได้มีการ คัดเลือกแหล่งวัตถุดิบอย่างรอบคอบและเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานหรือสิ่งแวดล้อม

ถุงพลาสติกเกรดรีไซเคิลของไทยฮงนั้น แม้จะผลิตจากวัสดุรีไซเคิล แต่ได้ผ่านกระบวนการคัดแยกและควบคุมคุณภาพอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มั่นใจว่า ไม่มีการปนเปื้อนของโลหะหนักอันตราย 4 ชนิด ได้แก่ แคดเมียม (Cadmium), โครเมียม (Hexavalent Chromium), ตะกั่ว (Lead), และปรอท (Mercury) ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว

ด้วยมาตรฐานการผลิตที่เคร่งครัดนี้ ทำให้ถุงพลาสติกจากโรงงานไทยฮงมีความปลอดภัย เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งในด้านการบรรจุสินค้า การขนส่ง และการใช้งานทั่วไป โดยยังคงให้ความมั่นใจด้านความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ผลทดสอบ SGS เนื้อพลาสติก PE เกรดรีไซเคิล ที่ไม่สารโลหะหนัก 4 ชนิด ข้อสรุปผลทดสอบ SGS เนื้อพลาสติก PE เกรดรีไซเคิล ที่ไม่สารโลหะหนัก 4 ชนิด

หากต้องการผลทดสอบ SGS แบบความละเอียดคมชัด สามารถกดได้ที่ลิงก์นี้ PE(Recycle)28-02-65 HL_202202_REPORT_NO_5191000

 

วิธีปิดปากถุงพลาสติกหลังใส่สินค้า

วิธีปิดปากถุงพลาสติก-แนะนำโดยโรงงานไทยฮง

หลายคนอาจเคยสงสัยว่า ถุงพลาสติกที่เราใช้ใส่ของควรปิดปากถุงยังไงให้แน่นหนา ไม่หลุดง่าย ที่จริงแล้ววิธีปิดปากถุงมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการใช้งาน ดังนี้

  1. ปิดปากถุงด้วยเทปกาว
    ข้อดี    ใช้งานง่าย รวดเร็ว เหมาะกับการปิดถุงชั่วคราว
    ข้อควรระวัง   อาจมีช่องว่าง ทำให้ฝุ่นหรือแมลงเล็ดลอดเข้าไปได้ จึงไม่เหมาะกับสินค้าที่มีความต้องการมิดชิด
  2.  ม้วนแล้วมัด
    ข้อดี     เหมาะกับถุงที่มีขนาดใหญ่ หรือบรรจุสินค้าที่มีปริมาณมาก เช่น การใส่ขยะจากงานอุตสาหกรรมการผลิต
    ข้อควรระวัง  ปลายถุงที่มัดอาจเกะกะ ดูไม่เรียบร้อย ใช้พื้นที่จัดเก็บเยอะขึ้น
  3. ซีลด้วยความร้อน
    ข้อดี     ปิดสนิท ป้องกันฝุ่น อากาศ ความชื้น และแมลง เหมาะสำหรับของที่เก็บนาน เช่น อาหารแช่แข็ง สมุนไพร หรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
    ข้อควรระวัง   การใช้เครื่องซีลที่มีความร้อน อาจต้องดูอุณหภูมิที่เหมาะสมกับความหนาของถุงพลาสติกว่าเพียงพอหรือไม่ หากใช้อุณหภูมิที่สูงเกินไปรอยซีลถุงอาจเกิดละลาย เป็นตามดได้
    สรุปคำแนะนำ  ถ้าต้องการความเรียบร้อยและปลอดภัย การซีลด้วยความร้อน คือทางเลือกที่แนะนำที่สุด โดยเฉพาะกับของกิน หรือของที่ต้องเก็บไว้นาน

การปิดปากถุงด้วยเทปกาวแบบเปิดปิดบ่อย ใช้งานได้รวดเร็ว การม้วนพลาสติกด้วยการมัดปากถุง

การควบคุมความหนาระหว่างการผลิตถุงพลาสติก

การใช้อุปกรณ์ไมโครมิเตอร์เป็นหนึ่งในวิธีที่สะดวกและได้ค่าความหนาทันทีขณะที่ทำการวัดความหนาระหว่างการผลิตถุงพลาสติก

วิธีการควบคุมความหนาระหว่างการผลิตถุงพลาสติกด้วยไมโครมิเตอร์

การวัดความหนาฟิล์มพลาสติกด้วยไมโครมิเตอร์เป็นวิธีที่ง่ายและสามารถอ่านค่าความหนาได้ทันทีขณะที่กำลังทำการตรวจสอบ ซึ่ง 1 ช่องบนไมโครมิเตอร์จะเท่ากับ 0.01 mm หรือ 10 ไมครอน ซึ่งทางโรงงานผลิตถุงพลาสติก ไทยฮง เลือกใช้อุปกรณ์ไมโครมิเตอร์ที่ได้มาตรฐาน ยี่ห้อ Teclock ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเอกสารรับรองการสอบเทียบ แต่วิธีนี้จะมีข้อจำกัดที่อาจจะทำให้เกิดความเคลื่อนระหว่างการผลิตได้แก่

ข้อจำกัดของการใช้ไมโครมิเตอร์

  • ระยะในการวัดความหนาของไมโครมิเตอร์ลึกสุด 12 cm ในกรณีที่ฟิล์มพลาสติกมีขนาดใหญ่กว่านั้นจะทำให้อุปกรณ์เข้าไปถึงทุกจุด
  • ฟิล์มพลาสติกไม่มีความเรียบ โดยเฉพาะการผลิตฟิล์มพลาสติกเกรดรีไซเคิล
  • ระหว่างการผลิตถุงพลาสติกจะมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา อาจจะทำให้อ่านค่าผิดพลาดได้ง่าย
การใช้งานเครื่องชั่งความละเอียดสูงสำหรับตรวจสอบน้ำหนักของถุงพลาสติกระหว่างการผลิตเพื่อควบคุมความหนา

วิธีการใช้เครื่องชั่งความละเอียดสูงในการควบคุมความหนา

จากข้อจำกัดข้างต้นของอุปกรณ์ไมโครมิเตอร์ ทางโรงงานผลิตถุงพลาสติก ไทยฮง ได้มีการออกแบบและพัฒนากระบวนการตรวจสอบคุณภาพของถุงพลาสติกเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้ถุงพลาสติกที่ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการ ถุงไม่หนาและบางจนเกินไป โดยการใช้เครื่องชั่งความละเอียดสูงแบบดิจิตัล ที่หน่วยการแสดงผลเป็นกรัม และมีความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 0.1 กรัมโดยวิธีการควบคุมความหนาของการผลิตถุงพลาสติกชั่งน้ำหนักจะอาศัยหลักการความหนาแน่นของพลาสติก Polyethylene ที่ 0.920 กรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ประกอบกับการนำถุงพลาสติกมาคำนวณหาปริมาตรที่แท้จริง

ตัวอย่างการคำนวณปริมาตรและน้ำหนักของถุงพลาสติก

ยกตัวอย่างเช่น ถุงพลาสติก LDPE ขนาดกว้าง 50 cm X ยาว 120 cm และความหนา 0.15 mm/คู่
  1. คำนวณหาปริมาตรโดยการคูณ 50 X 120 X 0.15/10 = 90 cm³ 
  2. ตรวจสอบความหนาแน่นของพลาสติก ในกรณี LDPE ความหนาแน่นเท่ากับ 0.920 g/cm³
  3. คำนวณน้ำหนักที่ควรจะเป็นโดยการคูณความหนาแน่นกับปริมาตรที่คำนวณได้ 90 X 0.920 = 82.8 กรัม
  4. ทำการเปรียบเทียบน้ำหนักที่คำนวณได้และน้ำหนักที่ชั่งได้จริง
  5. ทำการปรับความหนาระหว่างผลิตและทำการตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง

เปลี่ยนทางเข้าออกใหม่ของโรงงานผลิตถุงพลาสติก ไทยฮง

ประกาศเปลี่ยนทางเข้าออก-ออก โรงงานผลิตถุงพลาสติกไทยฮง เป็นทางเข้าใหม่บริเวณด้านหลังโรงงานเดิม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง

ประกาศรายละเอียดและวิธีการเดินทางใหม่

บริษัท ไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี จำกัด ได้คำนึงถึงความสะดวกในการเดินทางมาติดต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่เดินทางมาซื้อผลิตภัณฑ์ของทางโรงงาน เช่น ถุงพลาสติกขนาดใหญ่, เชือกฟาง, พลาสติกปูพื้น เป็นต้น และกลุ่มผู้ส่งสินค้าไม่ว่าจะเป็น วัตถุดิบหลัก เช่น เม็ดพลาสติก HDPE, เม็ดพลาสติก LDPE เป็นต้น และสินค้าอื่นๆ

เนื่องจากทางเข้าเดินที่มาจากฝั่งซอยคู่สร้าง หรือซอยสุขสวัสดิ์ 84 สะพานมีความสูงชันและซอยที่ค่อนข้างแคบ ทำให้เกิดปัญหากับรถยนต์และรถบรรทุกของผู้ที่มาติดต่อ ประกอบกับช่วงต้นๆซอยเป็นย่านชุมชนที่พลุกพล่านอาจจะทำให้การจราจรติดขัดบางเวลาและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ทางโรงงานผลิตถุงพลาสติกไทยฮง จึงได้เปลี่ยนทางเข้าออกใหม่เป็น ซอยปริ้นท์ หรือซอยสุขสวัสดิ์ 92 แทน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2568 เป็นต้นไป ลูกค้าและผู้มาติดต่อสามารถสแกน QR Code ในประกาศเปลี่ยนทางเข้าออก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง

ทางเข้าโรงงานใหม่บริเวณด้านหลังโรงงานถุงพลาสติกไทยฮง มีลักษณะเป็นหินคลุกและอิฐหัก เพื่อป้องกันการติดหล่มของผู้มาติดต่อ

ภาพทางเข้าออกบริเวณด้านหลังของโรงงานถุงพลาสติก

ทางบริษัท ไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี จำกัด ได้ทำการถมถนนใหม่ด้วยอิฐหักและโรยด้วยหินคลุก เพื่อป้องกันการติดหล่มของรถยนต์ของผู้มาติดต่อ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนในปีนี้ เนื่องจากเป็นถนนชั่วคราวระหว่างรอการทำถนนคอนกรีต ขอความร่วมมือผู้ที่มาติดต่อทุกท่านขับรถด้วยความระมัดระวัง และรบกวนใช้ความเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในบริเวณถนนชั่วคราวด้านหลังโรงงาน

ตัวทำละลายในงานอุตสาหกรรมคืออะไร

Solvent 631 สำหรับเป็นทำละลายในงานอุตสหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์หรืองานสีทุกรูปแบบ

Solvent 631 ประกอบด้วยอะไรบ้างและมีหน้าที่อย่างไรในงานอุตสาหกรรม

ใน Solvent มาตรฐานเบอร์ 631 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวของกับ งานสี, การพิมพ์ทั่วไป, กาว และการเคลือบเงา เป็นต้น ประกอบด้วยสารอินทรีย์ไฮโดรคาร์บอนระเหยง่าย (VOCs) ไม่ละลายในน้ำและเป็นวัตถุไวไฟ ทั้งหมด 3 ชนิดด้วยกันดังนี้

ชนิดของสารอินทรีย์ระเหยที่อยู่ใน Solvent 631

  • Toluene (65CH 3) จำนวน 6 ส่วน – ทำหน้าที่ในการละลายกาวและเรซิ่นในสี
  • IPA (Isopropyl Alcohol – 38O) จำนวน 3 ส่วน – เป็นตัวทำละลายที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคและสามารถทำความสะอาดพื้นผิวได้ดี และยังสามารถป้องกันการแข็งตัวของสีในระหว่างการเก็บรักษาได้ดี
  • EA (Ethyl acetate – 482) จำนวน 1 ส่วน – เป็นตัวทำละลายสำหรับส่วนผสมประเภท ไนโตรเซลลูโลสในสีพิมพ์และสีเคลือบเงาต่างๆ และยังเป็นสารอินทรีย์ที่ควบคุมและปรับแต่งความหรือและอัตราการระเหยของสีในงานพิมพ์ได้ดี

โรงงานผลิตถุงพิมพ์ลาย-ถุงสกรีนโลโก้ บริษัท ไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี จำกัด มีการสั่งซื้อ Solvent 631 จากผู้ผลิตรายใหญ่ที่ได้มาตรฐาน สำหรับผลิตงานสกรีนบนถุงพลาสติกแบบกราเวียร์ ท่านใดที่มีความสนใจที่จะสั่งผลิตถุงพลาสติก HDPE และ LDPE ที่มีการพิมพ์และการสกรีนโลโก้ หรือข้อความต่างๆบนถุงพลาสติก สามารถติดต่อฝ่ายขายเพื่อรับคำปรึกษาและออกแบบถุงพลาสติกร่วมกัน

อุปกรณ์ดับเพลิงภายในโรงงานผลิตถุงพลาสติก

โรงงานผลิตถุงพลาสติกไทยฮงมีการติดตั้งถังดับเพลิงจำนวนเพียงพอต่อการระงับเหตุเพลิงไหม้เพื่อความปลอดภัย

รูปอุปรกณ์ถังดับเพลิงภายในโรงงาน

บริษัท ไทยฮง พลาสติก อินดัสทรี จำกัด มีมาตรฐานความปลอดภัยที่นอกเหนือจากการจัดอบรบการป้องกันอัคคีภัยหรือซ้อมดับเพลิงให้แก่พนักงานประจำปีแล้ว ยังมีการจัดเตรียมอุปกรณ์ถังดับเพลิงให้เพียงพอต่อความต้องการเมื่อต้องระงับเหตุสุดวิสัยที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใน อบต. ที่มีประสบการณ์จริงในการดับเพลิงคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ถังดับเพลิงให้มีประสิทธิภาพและประเภทของสารเคมีในถังดับเพลิงเพื่อให้ตรงกับชนิดของเชื้อเพลิงภายในโรงงานผลิตถุงพลาสติก

ประเภทของวัตถุที่มีความเสี่ยงภายในโรงงาน

  • วัตถุดิบเม็ดพลาสติก – จัดอยู่ในไฟประเภท A
  • ผลิตภัณฑ์พลาสติก – จัดอยู่ในไฟประเภท A
  • Solvent และสีพิมพ์ – จัดอยู่ในไฟประเภท B
  • อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ – จัดอยู่ในไฟประเภท C

เมื่อพิจารณาจากประเภทของวัตถุที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นเชื้อเพลิงภายในบริเวณโรงงานผลิตถุงพลาสติกแล้วพบว่ามีไฟทั้งหมด 3 ประเภท(A,B และ C) ทางบริษัทจึงได้เลือกถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้งและถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย ซึ่งทั้ง 2 ชนิดมีประสิทธิ์ภาพในการดับเพลิงที่ Fire Rating เท่ากับ 10A/40B

เคล็ดลับการผลิตถุงพลาสติก PCR คุณภาพสูง

การใช้ตะแกรงเหล็กเบอร์ 100 ในการกรองพลาสติกในโรงงานผลิตถุงพลาสติกเพื่อเพิ่มคุณภาพของสินค้า

การใช้ตะแกรงเหล็กเบอร์ 100 กรองพลาสติกขณะหลอมเหลว

ในกระบวนการผลิตถุงพลาสติกของโรงงานผลิตถุงพลาสติก ไทยฮง จะมีขั้นตอนการหลอมละลายเม็ดพลาสติกด้วยอุณหภูมิ 150-200 องศาเซลเซียส เพื่อทำการขึ้นรูปแบบ Blown film extrusion นอกจากการคัดเลือกวัตถุดิบเข้ามาผลิตอย่างเข้มงวดแล้ว ทางผู้ผลิตถุงพลาสติกยังมีเคล็ดลับในการเพิ่มคุณภาพของถุงพลาสติกให้ดียิ่งขึ้นโดยการเพิ่มขั้นตอนการใช้ตะแกรงเหล็กกรองสิ่งเจือปนในเนื้อพลาสติก ซึ่งในขณะที่พลาสติกอยู่ในสถานะของเหลวที่มีความหนืดจะเป็นสถานะที่เหมาะสมที่สุดในการกรองสิ่งเจือปนโดยเฉพาะสิ่งเจอปนในเม็ดพลาสติก PCR และ PIR ในการผลิตถุงพลาสติกรีไซเคิล

เครื่องเป่าถุงพลาสติกทุกเครื่องของโรงงานถุงพลาสติกไทยฮงได้ถูกออกแบบให้มีช่องใส่ตะแกรงเหล็กบริเวณหน้าแปลนที่เชื่อมต่อระหว่าง Extruder กับ Die Head เพื่อให้สามารถติดตั้งตะแกรงเหล็กเพื่อกรองพลาสติกขณะหลอมเหลวได้ และจะมีพนักงานฝ่ายผลิตคอยเปลี่ยนตะแกรงเหล็กใหม่ทุกๆ 12 ชั่วโมง

คุณสมบัติของตะแกรงเหล็กได้แก่

  1. เป็นตะแกรงเหล็กสภาพดีไม่เป็นสนิม
  2. ใช้ตะแกรงเหล็กเบอร์ 100 ขึ้นไป
  3. ตะแกรงใช้แล้วทิ้งเท่านั้น ไม่มีการกลับมาเวียนใช้ใหม่
  4. ในบางกรณีจะใช้ตะแกรงเหล็กซ้อนกัน 2 ชั้น
  5. ทุกรูบนตะแกรงเหล็กไม่มีการอุดตัน